• หน้าหัวเรื่อง_Bg

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงในฤดูมรสุมของอินเดียต้องการข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำ: เกษตรกรเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วน

นิวเดลี — 25 มีนาคม 2568— ขณะที่ฤดูมรสุมกำลังใกล้เข้ามา อินเดียกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แนวโน้มการค้นหาบน Google ล่าสุดระบุว่าเกษตรกรและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบปริมาณน้ำฝน เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจปลูกพืชผลเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมและภัยแล้งอีกด้วย

ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในช่วงมรสุมต่อการตัดสินใจของเกษตรกร

ภาคเกษตรกรรมของอินเดียต้องพึ่งพาปริมาณน้ำฝนจากมรสุมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้รูปแบบปริมาณน้ำฝนในมรสุมมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ทำให้เกษตรกรจำนวนมากต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ข้อมูลล่าสุดจากกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียแสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำฝนในบางพื้นที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากภัยแล้งรุนแรงเป็นฝนตกหนักที่หายากภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน

“เราพึ่งพาลมมรสุม แต่ถ้าเราคาดการณ์ฝนไม่ได้ เราก็ไม่สามารถตัดสินใจปลูกพืชได้อย่างสมเหตุสมผล” ยูเลีย เกษตรกรจากรัฐมหาราษฏระคร่ำครวญ เธอตั้งข้อสังเกตว่าปีที่แล้ว เนื่องจากไม่สามารถรับมือกับภัยแล้งที่ยาวนานได้ทันเวลา พืชตระกูลถั่วของครอบครัวเธอจึงแทบไม่ให้ผลผลิตเลย

ภัยคุกคามจากน้ำท่วม: การเตรียมพร้อมเป็นเรื่องเร่งด่วน

ยิ่งไปกว่านั้น อุทกภัยที่เกิดจากมรสุมได้พัดถล่มหลายรัฐในอินเดียซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก ปีที่แล้วเพียงปีเดียว รัฐเบงกอลตะวันตกประสบอุทกภัยเนื่องจากฝนตกหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกหลายพันเฮกตาร์ ปัจจุบัน เกษตรกรต้องการข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำอย่างเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันล่วงหน้า เช่น การติดตั้งระบบระบายน้ำหรือปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูก

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ สมัยใหม่เครื่องวัดปริมาณน้ำฝนแบบถังเอียงกำลังกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแม่นยำในการติดตามปริมาณน้ำฝน อุปกรณ์เหล่านี้บันทึกระดับน้ำฝนโดยอัตโนมัติและสามารถให้ข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เกษตรกรสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว นักอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำว่าการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนแบบถังเอียง (Tipping Bucket Gauge) มากขึ้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามสภาพอากาศได้อย่างมาก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม

https://www.alibaba.com/product-detail/CE-Urban-Rainfall-Precipitation-Monitoring-Sensor_1601390852354.html?spm=a2747.product_manager.0.0.57f971d2UF6rcT

ชุดเซิร์ฟเวอร์และโมดูลซอฟต์แวร์ไร้สายครบชุด รองรับ RS485 GPRS /4g/WIFI/LORA/LORAWAN

“การพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำสามารถช่วยให้เราลดความสูญเสียจากน้ำท่วมและเพิ่มอัตราความสำเร็จของพืชผลได้” ผู้เชี่ยวชาญชี้ นักอุตุนิยมวิทยากำลังเรียกร้องให้มีการนำอุปกรณ์ตรวจสอบปริมาณน้ำฝนมาใช้มากขึ้น เพื่อปรับปรุงความแม่นยำของการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝน เพื่อช่วยให้เกษตรกรรับมือกับความท้าทายจากมรสุมได้ดีขึ้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน โปรดติดต่อบริษัท ฮอนเดะ เทคโนโลยี จำกัด, อีเมล:info@hondetech.com, เว็บไซต์บริษัท :www.hondetechco.com.

บทบาทของเทคโนโลยี: เกษตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ เทคโนโลยีกำลังกลายเป็นทางออกสำคัญ เกษตรกรเริ่มใช้แอปพลิเคชันมือถือและข้อมูลดาวเทียมเพื่อรับข้อมูลสภาพอากาศและพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนแบบเรียลไทม์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนบางแห่งกำลังพัฒนาโซลูชันการเกษตรอัจฉริยะเพื่อช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยการผสานรวมอุปกรณ์อุตุนิยมวิทยาขั้นสูง เช่น เครื่องวัดปริมาณน้ำฝนแบบถังพลิก โซลูชันเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำและทันท่วงที ช่วยให้เกษตรกรสามารถเตรียมความพร้อมก่อนฤดูมรสุมได้อย่างดี

“เรากำลังดำเนินการเพื่อรวมระบบติดตามอุตุนิยมวิทยาขั้นสูงเข้ากับการตัดสินใจด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถรับการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนในภูมิภาคของตนได้ทันท่วงที” ตัวแทนจากกระทรวงเกษตรของอินเดียกล่าว

บทสรุป

เมื่อฤดูมรสุมใกล้เข้ามา ภาคเกษตรกรรมของอินเดียกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเกษตรกรในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปกป้องผลผลิต และรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีเพียงเทคโนโลยีและข้อมูลเท่านั้นที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถก้าวผ่านยุคแห่งสภาพภูมิอากาศที่ไม่แน่นอน และค้นพบเส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืนได้ ความร่วมมือระหว่างรัฐบาล สถาบันวิจัย และเกษตรกรจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในอนาคต


เวลาโพสต์: 25 มี.ค. 2568